8 พฤษภาคม 2568
แนวทางการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ (Creative City Development) คือการใช้ “ความคิดสร้างสรรค์” เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเมือง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายให้เมืองมีชีวิตชีวา เป็นมิตรกับผู้คน มีความสามารถในการแข่งขัน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในระยะยาว
1. ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
พัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น การออกแบบ แฟชั่น สื่อ ศิลปะ วัฒนธรรม หัตถกรรมดั้งเดิม ฯลฯ
2. สนับสนุนชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ใช้รากเหง้าวัฒนธรรมของท้องถิ่นเป็นจุดขาย และส่งเสริมความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์
3. การมีส่วนร่วมของประชาชน
ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบและพัฒนาเมือง เช่น ผ่านกิจกรรมศิลปะชุมชน หรือเวทีสาธารณะ
4. บูรณาการเทคโนโลยีกับศิลปวัฒนธรรม
ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ เช่น Virtual Art, Interactive Installation, Smart City
5. การพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน
ออกแบบเมืองให้น่าอยู่ เช่น พื้นที่สาธารณะสีเขียว พื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) และการอนุรักษ์ตึกเก่าให้ใช้ประโยชน์ใหม่
6. เชื่อมโยงกับเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network)
เพื่อสร้างความร่วมมือระดับโลกและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
สหราชอาณาจักร
Edinburgh
เมืองแห่งวรรณกรรม (Literature) มีเทศกาลหนังสือระดับโลก
เกาหลีใต้
Seoul
เมืองแห่งการออกแบบ (Design) รวมเอาเทคโนโลยีกับวัฒนธรรมร่วมสมัย
บราซิล
Salvador
เมืองดนตรี (Music) ผสานวัฒนธรรมแอฟริกัน-ละตินอเมริกัน
ญี่ปุ่น
Kanazawa
เมืองหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน เช่น งานทองเปลว, เซรามิก
เชียงใหม่
หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts & Folk Art)
ศิลปะล้านนา ผ้าทอ เครื่องเงิน งานเซรามิก
ภูเก็ต
อาหาร (Gastronomy)
เมืองที่มีความหลากหลายของอาหารพื้นเมือง-จีน-มุสลิม
สุโขทัย
หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน
งานปั้น งานปัก ผ้าทอ และมรดกวัฒนธรรมสุโขทัย
เพชรบุรี
อาหาร
ขนมไทยดั้งเดิมและวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น
ต้องใช้วัฒนธรรมเป็นรากฐาน
ส่งเสริมผู้ประกอบการสร้างสรรค์
บูรณาการนโยบายภาครัฐและเอกชน
ให้ความสำคัญกับพื้นที่ทางศิลปะ
มีการสร้างแบรนด์และสื่อสารเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ